คู่มือนำเที่ยวเติร์กเมนิสถาน

ด้วยประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่ปรากฏบนสถานที่แห่งนี้ คุณควรไปสักครั้ง

เตอร์กเมนิสถาน (Turkmenistan) ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม “เติร์กเมเนีย” เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในเอเชียกลาง โดยมีพรมแดนติดกับคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน อัฟกานิสถาน อิหร่าน และทะเลแคสเปียน 

เติร์กเมนิสถานเป็นเส้นทางสัญจรสำหรับประเทศและวัฒนธรรมอื่น ๆ มานานหลายศตวรรษ แม้ว่าอาชกาบัต (Ashgabat) จะเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุด แต่เมิร์ฟ (Merve) เป็นหนึ่งในเมืองโอเอซิสที่เก่าแก่ที่สุดที่ตั้งอยู่ที่นี่ อันที่จริง เติร์กเมนิสถานขึ้นชื่อเรื่องการครอบครองก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ต่อไปนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งที่ต้องทำในเติร์กเมเนีย

อาชกาบัต (Ashgabat)

เมืองหลวงมีชื่อเสียงในด้านการบันทึกสถิติของกินเนสส์ในด้านความหนาแน่นสูงสุดของอาคารที่หุ้มด้วยหินอ่อนสีขาวในโลก ไม่เพียงแค่นี้ เมืองนี้ยังมีสถิติจำนวนน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่สาธารณะและความน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย สามารถไปเยี่ยมชมซากปรักหักพังโบราณของโอนิซ่า ฟาร์มม้าเพื่อชมม้าอาเคอร์เทคกะที่มีชื่อเสียงได้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในสมัยโบราณในปี พ.ศ. 2424

เมิร์ฟ (Merv)

เป็นที่รู้จักกันว่า “เมิร์ฟ โอเอซิส” (Merve Oasis) ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองใหญ่ของอิหร่านในเอเชียกลางบนเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่ ส่งผลให้เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากซากปรักหักพังของเมืองโบราณ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เมิร์ฟได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ซากปรักหักพังมีประวัติศาสตร์ 4,000 ปี หากอยู่ในเมือง เป็นไปไม่ได้ที่ไม่มีใครเดินไปรอบ ๆ ซากปรักหักพังของป้อมปราการโบราณ ถนนในยุคกลาง และสุสานของสุลต่านซันจาร์ผู้ปกครองเมืองเซลจุก คุณจะถูกพาไปยังโลกที่สาบสูญเมื่อคุณเดินผ่านซากปรักหักพังอิฐโคลนขนาดใหญ่เหล่านี้

โกนูร์ เทเป (GonurTepe)

ที่นี่เป็นเมืองที่มีการตั้งรกรากที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นโบราณสถานที่มีอายุระหว่าง 2,400 - 1,600 ปีก่อนคริสตศักราช นักโบราณคดีได้แบ่งเมืองออกเป็นสามส่วนหลัก ได้แก่ โกนูร์เหนือ สุสานใหญ่ และโกนูร์ใต้ ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2493 โดยนักโบราณคดีชาวกรีก-รัสเซีย นามว่าวิกเตอร์ สาเรียนิดิ และขุดค้นในปี พ.ศ. 2513 ซึ่งเป็นกำแพงอิฐโคลนที่มีป้อมปราการ และวัดที่มีแท่นบูชาไฟที่ค้นพบมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาโซโรอัสเตอร์ เมืองนี้มีท่อระบายน้ำ ถนน บ้าน และวัดเป็นของตัวเอง

แยงกีคาลา (Yangykala)

ที่นี่คือธรณีสัณฐาน (Eponymous Landform) ในภูมิภาคบอลข่าน (Balkan Region) หุบเขาเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ก่อตัวขึ้นเมื่อ 5.5 ล้านปีก่อน ภูมิประเทศที่เป็นหินปูนเหล่านี้เกิดจากแม่น้ำและลมของทะเลทรายคาราคัม และเมื่อราว ๆ 15 ล้านปีก่อน เป็นบริเวณชายฝั่งทะเลในสมัยโบราณ พยาธิวิทยา แม้ว่าจะมีลักษณะทางธรรมชาติและมีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวไม่มากที่รู้จักสถานที่แห่งนี้