สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับประเทศไทยมากว่า 700 ปี ผ่านการปกครองของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์จากหลายยุคสมัย ตั้งแต่สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี มาจนถึงยุคสมัยนี้คือกรุงรัตนโกสินทร์ หรือกรุงเทพมหานคร โดยในปัจจุบัน ประเทศไทยอยู่ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และในปีนี้ (พ.ศ.2565) กรุงรัตนโกสินทร์จะมีอายุครบ 240 ปี เรามาย้อนดูประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จักรีเริ่มตั้งแต่การก่อตั้งราชวงศ์กันเถอะ

การสถาปนาราชวงศ์จักรี

ในปี พ.ศ.2325 หลังจากสิ้นสุดสมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ จากนั้นได้ทรงย้ายราชธานีมายังกรุงเทพมหานคร ได้ทรงฟื้นฟูกฎหมาย ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา และอีกหลาย ๆ สิ่งที่ได้สูญหายไปในช่วงเสียกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ถือได้ว่าเป็นยุคทองของวรรณคดี มีวรรณคดีที่สำคัญมากมายเกิดขึ้นในยุคนี้ และพระองค์เองยังมีพระปรีชาสามารถในด้านศิลปะอีกหลายด้าน

พัฒนาเพื่อเอกราช

ในปี พ.ศ.2394 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นพระเชษฐา (พี่ชาย) ช่วงเวลานั้นชาติมหาอำนาจจากตะวันตกอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสกำลังแผ่ขยายอิทธิพลมายังภูมิภาคนี้ รัชกาลที่ 4 จึงทรงมีนโยบายในการพัฒนาประเทศให้มีความทันสมัยทัดเทียมนานาอารยประเทศ ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ นอกจากนี้ พระองค์ยังมีพระปรีชาสามารถคำนวณสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ ทำให้ทรงได้รับการยกย่องเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”

ป้องชาติจากอาณานิคม

ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยขึ้น ในสมัยนี้ได้เกิดวิกฤติการณ์ ร.ศ.112 ที่ฝรั่งเศสส่งเรือรบเข้ามาทางปากน้ำเจ้าพระยา หวังจะยึดสยามเป็นอาณานิคม มีการเจรจาต่อรองกันหลายอย่าง จนท้ายที่สุดสยามต้องมีการเสียดินแดน และเสียค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่ก็ด้วยเงินถุงแดงที่ได้จากการค้าขายตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 สมทบกับเงินของพระราชวงศ์และเหล่าคหบดี ทำให้สยามรอดพ้นจากการถูกยึดเป็นอาณานิคมครั้งนั้นมาได้

ผ่านสงครามโลก

ในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระองค์ทรงมีความภาคภูมิใจและสนับสนุนในความเป็นไทยอย่างมาก ทั้งยังนำประเทศเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตร ประกาศสงครามกับเยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งในที่สุดแล้วฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นฝ่ายชนะ สยามจึงถือว่าเป็นผู้ชนะสงครามไปด้วย ทำให้มีอำนาจในการเจรจาต่อรองแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหลายอย่างได้สำเร็จ

ต่อในสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่หลังจากนั้นแล้วพระองค์ได้ทรงสละราชสมบัติ และได้มีการอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งในเวลานั้นมีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี โดยมีนายปรีดี พนมยงค์เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต่อมา จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มีนโยบายรัฐนิยม เปลี่ยนชื่อประเทศเป็นไทย และนำประเทศไทยเข้าร่วมสงครามกับญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2

ยุคแห่งความรุ่งเรือง

หลังจากรัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ.2489 พระอนุชาคือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ตลอดระยะเวลา 70 ปีของการครองราชย์ พระองค์ได้บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร ทำให้ทรงเป็นที่รักของปวงชน และทรงได้รับการยกย่องจากนานาประเทศ

ในปัจจุบัน ประเทศไทยอยู่ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งก็ได้ทรงสานต่อพระราชกรณียกิจของพระบรมชนกนาถเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย